``ขาดดุลการค้า'' 8 เดือนติดต่อกัน... ``ครั้งแรก'' ตั้งแต่วิกฤต IMF = เกาหลีใต้
กลไกขับเคลื่อนการเติบโตของเกาหลีใต้ ซึ่งก็คือการส่งออก ลดลง 30% ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์และตลาดจีนในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งบันทึกการเติบโตติดลบเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิงหาคม 2020 เมื่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 อยู่ในระยะเริ่มต้นในเกาหลีใต้

ดุลการค้าเป็นสีแดงเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี นับตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ (วิกฤตค่าเงิน) เนื่องจากการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าการส่งออก การขาดดุลการค้าสะสมในปีนี้ทะลุ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.457 ล้านล้านเยน) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 66 ปี นับตั้งแต่สถิติการค้าภายในประเทศเริ่มขึ้นในปี 2499

จากข้อมูลของกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ (เทียบเท่ากับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม) เมื่อวันที่ 1 มกราคม การส่งออกในเดือนพฤศจิกายนลดลง 14.0% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เป็น 51.91 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.819 ล้านล้านเยน) ). มูลค่าการส่งออกในเดือนตุลาคมลดลง 5.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 24 เดือนนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 (-3.9%) และมูลค่าการส่งออกลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน

เมื่อพิจารณาการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนโดยแยกตามรายการ เซมิคอนดักเตอร์ (-29.8%) และปิโตรเคมี (-26.5%) ซึ่งเป็นสินค้าหลัก ลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เซมิคอนดักเตอร์เป็นสินค้าหลักที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของการส่งออกทั้งหมดของเกาหลี

โดยแต่ละประเทศ จีน (-25.5%) ญี่ปุ่น (-17.8%) อเมริกากลางและใต้ (-19.1%) เป็นต้น ตลาดจีนซึ่งเป็นคู่ค้าส่งออกรายใหญ่ที่สุดได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็น 25% ของการส่งออกทั้งหมด

มูลค่าการนำเข้าในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 58.93 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.0396 ล้านล้านเยน) เพิ่มขึ้น 2.7% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ดุลการค้าในเดือนพฤศจิกายนขาดดุล 7.01 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 956.34379 พันล้านเยน) และขาดดุลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8 เดือนติดต่อกันตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีตั้งแต่มกราคม 2538 ถึงพฤษภาคม 2540 ที่ขาดดุลต่อเนื่องนานกว่าแปดเดือน

2022/12/02 09:41 KST