ว่ากันว่ามีความคล่องตัวถึง 1,300 คันและยานพาหนะอื่นๆ ตามรายงานของสื่อไต้หวันเมื่อวันที่ 8 สถาบันวิจัยความมั่นคงด้านการป้องกันประเทศ (INDSR) ภายใต้กระทรวงกลาโหมของไต้หวันได้ประกาศเมื่อวันที่ 3 ใน "รายงานการประเมินการพัฒนากองกำลังคอมมิวนิสต์จีนปี 2023" ว่าจีน
เราวิเคราะห์องค์ประกอบของหน่วยและยุทธวิธีที่ใช้เมื่อกองทัพแห่งชาติยกพลขึ้นบกที่ไต้หวัน ด้วยเหตุนี้ จีนจึงปฏิบัติการยกพลขึ้นบกครั้งแรกด้วยกำลังพลประมาณ 12,000 นายจากกองพลน้อยทางอากาศและกองพลจู่โจมทางอากาศของจีน และกำลังพลประมาณ 20,400 นายจากกองเรือยกพลขึ้นบกทางเรือ
คาดว่ามีกำลังพลประมาณ 52,000 นาย รวมทั้งกำลังพล 000 นาย กำลังพลประมาณ 16,000 นายจากกองพลสังเคราะห์สะเทินน้ำสะเทินบกของกองทัพบก และเฮลิคอปเตอร์ประมาณ 1,300 ลำและรถหุ้มเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกจากนาวิกโยธิน
รายงานคาดการณ์ว่ากำลังยกพลขึ้นบกของกองทัพจีนจะถึง 100,000 คน แต่กองทัพจีนจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญกับอันตรายร้ายแรง ช่องแคบไต้หวันมีความกว้าง 100 กิโลเมตร
นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น การขาดประสบการณ์ของกองทัพจีนในการปฏิบัติการลงจอดจริงและการจัดวางกองกำลังที่ไม่สมมาตรของไต้หวัน เช่น ขีปนาวุธต่อต้านเรือและขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน อาจส่งผลกระทบต่อแผนของกองทัพจีน กองทัพจีนก็เช่นกัน
เขาแสดงความเห็นว่าแม้ว่ากองกำลังยานยนต์ขนาดใหญ่จะยกพลขึ้นบกบนชายฝั่ง แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะเคลื่อนย้ายกองกำลังยานยนต์ขนาดใหญ่ เพราะมันจะต้องเผชิญหน้ากับพื้นที่ภูเขา เนินเขา และหมู่บ้านในทันที อย่างไรก็ตาม หากจีนตัดสินใจขึ้นบกไต้หวัน ก็จะเป็นเจ้าแรกอย่างแน่นอน
โดยคาดการณ์ว่าการโจมตีทางอากาศและการโจมตีด้วยขีปนาวุธจะทำให้ระบบสั่งการและการควบคุมของไต้หวันเป็นอัมพาต และทำให้ "หูและตา" ของไต้หวันเป็นกลาง
กระทรวงกลาโหมของไต้หวันกล่าวว่า "หากเกิดสงครามระหว่างทั้งสองประเทศ
“ไต้หวันทั้งหมดจะกลายเป็นสนามรบ และจะไม่มีการแบ่งแยกระหว่างแนวหน้าและแนวหลัง” ยิ่งไปกว่านั้น ``ทหารที่รับราชการภาคบังคับหนึ่งปีจะปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยป้องกันเป็นหลัก และจะทำงานร่วมกับผู้นำทางทหารในการป้องกันประเทศ ปฏิบัติการสนับสนุน และปฏิบัติการหนัก''
โดยจะรับผิดชอบภารกิจด้านการป้องกัน เช่น การปกป้องสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารและพลเรือนที่สำคัญ”
2024/01/09 06:43 KST
Copyrights(C) Herald wowkorea.jp 104