ตามรายงานของ Yonhap News เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พบว่า นาย A เป็นชาวบังกลาเทศในวัย 40 ปี บังเอิญพบกับนาย B หญิงชาวเกาหลีที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และทั้งสองได้พูดคุยกัน
นาย A ได้รับเชิญไปบ้านนาย B หลายครั้งเพื่อเรียนภาษาเกาหลีและรู้จักเขามากขึ้น
ต่อมาเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ทั้งสองเริ่มมีความสัมพันธ์ทางเพศกัน แต่หลังจากนั้น นาย...
เขาเรียกร้องว่า ``อย่าส่งเงินเดือนของคุณไปบังคลาเทศ ให้ฉันหน่อยเถอะ นับจากนี้ไป โปรดมาที่บ้านฉันทุกวัน'' เพื่อเป็นการตอบรับ นาย A ได้แสดงความตั้งใจที่จะปฏิเสธ แต่นาย B ยังคงติดต่อเขาต่อไป
- นอกจากนี้ เมื่อนาย A ยังคงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า นาย B ได้แจ้งความนาย A ต่อตำรวจโดยแจ้งความเท็จว่า ``ฉันต้องการให้เขาถูกลงโทษฐานฉ้อโกงเพราะเขายืมเงินของฉันแล้วไม่จ่ายคืน ''
เมื่อตำรวจสอบสวน นาย B กล่าวว่า ``นาย A เข้ามาในบ้านของฉันโดยสวมหมวกและหน้ากากและขโมยเงินสดมูลค่า 13.5 ล้านวอนและสิ่งของอื่น ๆ'' และ ``ฉันถูกข่มขืน''
การร้องเรียนดำเนินต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร? อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนของตำรวจ ได้รับการยืนยันว่านาย ก อยู่ที่ทำงาน ในขณะที่นาย ข อ้างว่าตกเป็นเหยื่อ
สุดท้ายนายบีก็ขึ้นศาลในข้อหากล่าวหาเท็จ ฯลฯ และนายเอที่ไม่ต้องการพบก็ถามนาย
นอกจากนี้ เขายังถูกดำเนินคดีในข้อหาส่งข้อความโทรศัพท์มือถือ 95 ข้อความ (ซึ่งถือเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการลงโทษการสะกดรอยตาม)
ผู้พิพากษาจอง อิน-ยอง หัวหน้าผู้พิพากษาศาลแขวงอุลซาน นักสืบคนที่ 4 เป็นคนที่สุด
เมื่อเร็วๆ นี้ นายบีถูกตัดสินจำคุก 1 ปี และได้รับคำสั่งให้เข้ารับการบำบัดการสะกดรอยตามเป็นเวลา 40 ชั่วโมง ศาลกล่าวว่า ``เนื่องจากการก่ออาชญากรรม สถานะทางสังคมของจำเลยจึงไม่ปลอดภัยเนื่องจากปัญหาต่างๆ เช่น การรักษาและการขยายสถานภาพการพำนักของเขา
จำเลยก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานทางจิตใจอย่างมากแก่คนงานต่างชาติปกติ'' คำแถลงกล่าว พร้อมเสริมว่า ``อย่างไรก็ตาม เราได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยดูเหมือนจะมีอาการป่วยทางจิต''
โดยเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้นาย B เคยถูกตัดสินจำคุก 3 ครั้งในข้อหาก่ออาชญากรรม เช่น การกล่าวหาที่เป็นเท็จ
2024/03/27 10:44 KST
Copyrights(C) Edaily wowkorea.jp 88