เขาให้คำอธิบายถึงจุดประสงค์ของการสื่อสารผ่านบันทึกความทรงจำของเขาเอง นี่เป็นครั้งแรกที่อดีตประธานาธิบดี มุน แจอิน แสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นการเดินทางไปทำธุรกิจในต่างประเทศของคู่สมรส
ตามบันทึกความทรงจำของอดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน ``จากพรมแดนสู่ศูนย์กลาง'' เมื่อวันที่ 19 อดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเยือนอินเดียของเขาในปี 2018 โดยกล่าวว่า
ในเวลานั้น นายกรัฐมนตรีอินเดีย Modi พูดคุยกับฉันเกี่ยวกับแผนการที่จะสร้างอุทยานอนุสรณ์จักรพรรดินีเฮโอ และเชิญฉันให้กลับมาอีกครั้งเมื่อสวนสาธารณะเปิด''
อดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน กล่าวต่อว่า ``ต่อมาเมื่อมีการเปิดอุทยานอนุสรณ์ รัฐบาลอินเดียได้เชิญฉันอีกครั้ง แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่ต้องการมาอินเดีย''
“มันยากสำหรับฉันที่จะกลับไปอีกครั้ง” เขากล่าว “ดังนั้นฉันจึงปฏิเสธอย่างหนักแน่น จากนั้นฉันก็ได้รับเชิญให้ส่งภรรยาไปที่นั่นแทนฉัน ภรรยาของฉันจึงเข้าร่วมงานเปิดตัวแทนฉัน”
อดีตประธานาธิบดีมุนแจอินยังกล่าวอีกว่า ``เหตุผลที่ฉันเล่าเรื่องนี้อย่างละเอียดก็เพราะถึงตอนนี้ก็ยังมีคนที่บิดเบือนเรื่องราวอย่างมุ่งร้ายเพื่อให้ดูเหมือนว่าภรรยาของฉันไปเที่ยวท่องเที่ยวด้วยเงินของรัฐบาล ''
เขายังเน้นย้ำอีกว่า ในโลกการเมือง เมื่อสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง คิม จองซอก เยือนอินเดียในปี 2561 เธอชี้ให้เห็นว่าเกาหลีใต้ได้ยื่นคำร้องไปยังอินเดีย ซึ่งขัดต่อประกาศของทำเนียบประธานาธิบดี
ลี จุง สมาชิกสภาเทศบาลเมืองโซลซึ่งอยู่ใน ``พลังประชาชน'' ถามสำนักงานอัยการเขตกลางกรุงโซลเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วเพื่อถามนาง
พวกเขากล่าวหาว่าเขาต้องสงสัยและอ้างว่า ``เงินทุนสำรอง 400 ล้านวอน (ประมาณ 46 ล้านเยน) ได้รับการจัดระเบียบและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเดินทางโดยพฤตินัย ซึ่งผิดกฎหมายอย่างชัดเจน''
อดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน ตอบคำถามจากคู่สนทนาของเขาว่า ``นี่เป็นนโยบายต่างประเทศครั้งแรกสำหรับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศเราหรือไม่''
``เนื่องจากคู่สมรสของผู้นำมักจะดำเนินการทางการฑูตคู่สมรสหลายครั้งโดยที่พวกเขาช่วยเหลือผู้นำ จึงอาจเรียกชื่อผิดเล็กน้อยหากเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น ``การทูตครั้งแรกของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง'''' และ
“นั่นเป็นสำนวนที่ถูกต้อง” เขากล่าวเสริม
2024/05/19 19:38 KST
Copyrights(C) Edaily wowkorea.jp 99