มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 7 ว่า จำนวนผู้ป่วยต่อปีเกิน 980 รายที่พบในปี 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคนี้แพร่ระบาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อแยกตามอายุ 49.6% (617 คน) มีอายุ 13 ถึง 19 ปี และ 37.5% (512 คน) มีอายุ 7 ถึง 12 ปี
เด็กผู้ชายคิดเป็น 87.1% (1,129 คน) ของทั้งหมด ตามภูมิภาค มีรายงานการระบาดที่สถานศึกษาในคยองนัม (39.8%, 392 คน) และคยองกี (17.4%)
, 143 คน), ปูซาน (8%, 109 คน) และคยองบุก (6.6%, 90 คน) โดยเฉพาะในปีนี้อุบัติการณ์ดังกล่าวกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก 25 พฤษภาคม ในสหรัฐอเมริกา
มีผู้ติดเชื้อรวม 4,864 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 2.8 เท่า เทียบกับ 1,746 คนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ณ วันที่ 27 เมษายน ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อ 2,521 ราย เสียชีวิต 96 ราย ในประเทศจีนมีผู้คน 91,272 คนในเดือนเมษายน
จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 3.4 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมในปีนี้คือ 20 ราย ในเกาหลีใต้ อัตราการฉีดวัคซีนไอกรนอยู่ที่ 97.3% สำหรับเด็กอายุ 1 ปี (DTaP ระยะที่ 3) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ระดับ 96.8% (DTaP ระดับ 5) สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วที่สำคัญ โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีที่มีการติดเชื้อน้อยลง (4 คน) ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนักเมื่อติดเชื้อและมีผู้เสียชีวิตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีการรายงานกรณีใด ๆ อย่างไรก็ตาม หากจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้น อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้
ด้วยเหตุนี้ จึงมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อและแพร่เชื้อไอกรน รวมถึงผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 6 เข็มแล้ว
สิ่งสำคัญคือต้องฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบโดยทันที ส่วนผู้ที่ใกล้ชิดกับเด็กและดูแลต้องฉีดวัคซีนป้องกันไอกรน (Tdap) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ามาสัมผัสกับเด็ก .
สตรีมีครรภ์และสตรีวัยเจริญพันธุ์ควรได้รับการฉีดวัคซีนด้วย จี ยองมี ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมและป้องกันโรค กล่าวถึงการระบาดของโรคไอกรนในปัจจุบันว่า ``มีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามามีบทบาท และโรคระบาดนี้จะไม่คงอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง''
``ผู้ปกครองและครูควรงดเว้นจากการไปโรงเรียนหากสงสัยว่านักเรียนจะติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมถึงโรคไอกรน และสนับสนุนให้พวกเขาฝึกปฏิบัติมารยาทในการล้างมือและไอในชีวิตประจำวัน''
เราขอความสนใจและคำแนะนำจากคุณ”
2024/06/07 11:59 KST
Copyrights(C) Edaily wowkorea.jp 85