ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นจากข้อพิพาทด้านภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเกิดความปั่นป่วนอีกครั้ง เวลา 9:51 น. ของวันที่ 6 Bitcoin (BT
C) มีการซื้อขายที่ 96,780 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14.73 ล้านเยน) ลดลง 1.51% จากช่วงเวลาเดียวกันของวันก่อนหน้า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำหนดอัตราภาษี 10 เปอร์เซ็นต์กับการนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมดเมื่อวันก่อน
มีการเก็บค่าธรรมเนียมสากลเพิ่มเติมอีก 1,000 บาท จีนมีปฏิกิริยาเชิงลบต่อเรื่องนี้ องค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวเมื่อวันที่ 5 (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่าจีนได้เปิดข้อพิพาทเพื่อตอบโต้ภาษีศุลกากรใหม่ที่สหรัฐฯ กำหนดกับสินค้าจีน
เขาได้เปิดเผย ตามแถลงการณ์ที่โพสต์บนเว็บไซต์ของ WTO ในวันเดียวกันนั้น จีนได้ร้องขอการปรึกษาหารือเกี่ยวกับข้อพิพาทกับ WTO เกี่ยวกับมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ คำร้องดังกล่าวถูกส่งไปยังประเทศสมาชิก WTO ในวันเดียวกัน
ได้มีการหมุนเวียนกันไป ตลาดอยู่ในความปั่นป่วนวันแล้ววันเล่าอันเป็นผลจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำหนดภาษีศุลกากร และทัศนคติของนักลงทุนก็แย่ลง ในวันนี้ดัชนี Crypto Fear and Greed อยู่ในสถานะ “เป็นกลาง” ที่ 49 จุด ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 54 แต้ม
หากเทียบกับวันก่อนหน้า ทัศนคติการลงทุนแย่ลง ดัชนีความกลัวและความโลภเป็นตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 100 ที่วัดความต้องการการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล ยิ่งใกล้ 100 ความต้องการก็ยิ่งมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน บางคนเสนอว่าภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อาจช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับ Bitcoin ได้อีก
เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) The Block รายงานว่าการวิจัยโดยบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของยุโรป CoinShares
“ดอลลาร์สูญเสียอิทธิพลไปตามกาลเวลา และการใช้กฎหมายอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศของทรัมป์ (IEPA) เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง” เจมส์ บัตเตอร์ฟิลล์ ผู้เขียนอาวุโสของรายงานกล่าว
“สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ Bitcoin ดูมีเสน่ห์มากขึ้น”
2025/02/06 12:56 KST
Copyright(C) BlockchainToday wowkorea.jp 118