เมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดกรณีหลายกรณีที่ชายชาวเกาหลีที่เดินทางไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะกัมพูชา ขาดการติดต่อ และยังมีรายงานบุคคลสูญหายเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในคยองซังนัมโดและกวางจู
จากสถิติที่รวบรวมโดยสำนักงานตำรวจจังหวัดคยองซังนัม พบว่าจำนวนผู้สูญหายที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชาในจังหวัดนี้เพิ่มขึ้นจาก 15 รายเป็น 17 ราย และมีกรณีเพิ่มขึ้นอีก 2 กรณี ผู้สูญหายส่วนใหญ่มาจาก
ชายกลุ่มดังกล่าวมีอายุระหว่าง 20 ถึง 30 ปี และถูกระบุว่ามาจากกิมแฮ ฮามาน และชางวอน สิบรายได้รับการยืนยันในภายหลัง และรายงานถูกถอนออก ส่วนรายที่เหลือ
ผู้ป่วยทั้งเจ็ดรายได้รับการยืนยันผ่านคนรู้จักหรืออยู่ระหว่างการสอบสวนผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจนครบาลกวางจูยังได้รับรายงานว่ามีชายสองคนที่ขาดการติดต่อหลังจากเดินทางออกนอกประเทศไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คดีใหม่นี้เป็นชายวัย 40 ปีที่เดินทางไปเวียดนามเมื่อเดือนพฤษภาคม และขาดการติดต่อกับตำรวจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ทั้งสองคนคือนาย B ชายวัย 20 ปีเศษที่เดินทางไปกัมพูชาเมื่อเดือนกันยายน ได้รับการยืนยันทางโทรศัพท์ว่านาย B กำลังพำนักอยู่ในกัมพูชา และขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตเกาหลีประจำกัมพูชากำลังดำเนินการสอบสวน
เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งกล่าวว่า “กระทรวงการต่างประเทศได้ขอคำยืนยันตัวตนของพลเมืองที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ” และเสริมว่า “เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพยายามอย่างเต็มที่ในการระบุที่อยู่ของเขา”
เนื่องจากจำนวนผู้สูญหายและสูญเสียการติดต่อเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกัมพูชา ผู้เชี่ยวชาญจึงชี้ให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่บุคคลเหล่านี้ถูกเกณฑ์หรือถูกกักขังโดยองค์กรอาชญากร
ในบรรดารายงานทั้ง 17 ฉบับนั้น หน่วยงานดังกล่าวเปิดเผยว่า "มีกรณีที่ผู้คนต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมฟิชชิ่งและอาชญากรรมอื่นๆ หลังจากเดินทางไปกัมพูชาโดยหวังว่าจะได้รับผลกำไรจำนวนมาก"
นอกจากนี้ สถิติภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ยังแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ปีที่แล้ว มีชาวเกาหลีหลายร้อยคนถูกแจ้งว่าถูกลักพาตัว กักขัง หรือสูญหายในกัมพูชา
เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกาหลีใต้ดำเนินนโยบายต่างๆ เช่น การเสริมสร้างการปรึกษาหารือก่อนเข้าประเทศ การขยายการศึกษาเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และปรับปรุงความเร็วในการรายงานบุคคลสูญหาย
ความจำเป็นของระบบดังกล่าวเริ่มมีการหารือกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า พวกเขากำลัง "สร้างระบบที่จะติดตามตำแหน่งของบุคคลที่ขาดการติดต่อขณะอยู่ต่างประเทศโดยอัตโนมัติ"
2025/10/28 07:03 KST
Copyrights(C) Edaily wowkorea.jp 107