Cointelegraph รายงานเมื่อวันที่ 10 (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่าธนาคารขนาดใหญ่ 9 แห่งจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการที่มีประเด็นทางการเมือง รวมถึงโครงการในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2023
สำนักงานควบคุมดูแลสถาบันการเงิน (OCC) รายงานว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งได้จำกัดการให้บริการทางการเงินแก่บางภาคส่วน รวมถึงภาคส่วนที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สำนักงานควบคุมดูแลสถาบันการเงิน (OCC) ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของนโยบาย แต่ระบุว่าธนาคารไม่ควรจำกัดการเปิดบัญชีหรือบริการทางการเงินแก่ลูกค้าบางกลุ่ม หรือจำกัดการให้บริการแก่ลูกค้าบางกลุ่ม
บริษัทได้ขอให้มีขั้นตอนการตรวจสอบและอนุมัติเพิ่มเติมก่อนที่จะให้บริการ
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นตามคำสั่งบริหารที่ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในเดือนสิงหาคม ซึ่งกำหนดให้ธนาคารต้องห้ามผู้ให้กู้เปิดเผยความเชื่อทางการเมืองหรือศาสนาของตน
กระทรวงได้สั่งให้มีการสอบสวนว่าสถาบันการเงินได้เลือกปฏิบัติหรือ "ตัดบัญชี" ลูกค้าโดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินหรือไม่ "การตัดบัญชี" หมายถึง สถาบันการเงินยกเลิกบัญชีของบริษัทหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือเปิดบัญชีใหม่ให้
จากรายงานของ OCC ระบุว่า นอกเหนือจากสกุลเงินดิจิทัลแล้ว อุตสาหกรรมที่ถูกธนาคารจำกัดยังรวมถึงการสำรวจน้ำมันและก๊าซ การทำเหมืองถ่านหิน อุตสาหกรรมอาวุธปืน เรือนจำเอกชน และการผลิตยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้า
OCC ระบุว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล มีกรณีการจำกัดสิทธิ์ของผู้ออกสกุลเงินดิจิทัล ตลาดแลกเปลี่ยน ผู้ดูแลระบบ ฯลฯ เนื่องจากความเสี่ยงต่ออาชญากรรมทางการเงิน"
ธนาคารที่ได้รับการสำรวจในครั้งนี้ ได้แก่ JPMorgan Chase และ Bank of America
อเมริกา, ซิตี้แบงก์, เวลส์ ฟาร์โก, ยูเอสแบงก์
ธนาคารแคปิตอลวัน ธนาคารพีเอ็นซี ธนาคารทีดี ธนาคารบีเอ็มโอ
ธนาคารหลัก 9 แห่งที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของ OCC รวมถึงธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ กำลังถูกสอบสวน OCC กล่าวว่ากำลังดำเนินการสอบสวนต่อไป และอาจส่งรายละเอียดไปยังกระทรวงยุติธรรมหากจำเป็น
2025/12/11 19:30 KST
Copyright(C) BlockchainToday wowkorea.jp 99
