จะถึงจุดจบ” เขาเตือนอย่างหนักแน่น ในวันที่ 4 กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้กล่าวว่า ``เกาหลีเหนือได้ประดิษฐานนโยบายอาวุธนิวเคลียร์ของตนไว้อย่างชัดเจน ซึ่งได้ประกาศใช้เป็นกฎหมายในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในรัฐธรรมนูญ ทำให้ชัดเจนว่าเกาหลีเหนือได้ตัดสินใจที่จะ ``ละทิ้ง อาวุธนิวเคลียร์ของมัน'' แม้ว่าชีวิตพลเรือนจะถูกทำลายก็ตาม
“มันแสดงให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นถึงความทะเยอทะยานของตนที่จะ “ปรับปรุงขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ และพัฒนาขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์” เขากล่าวต่อว่า ``นี่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพของประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงคาบสมุทรเกาหลี''
ผลก็คือ เกาหลีเหนือจะโดดเดี่ยวจากประชาคมระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น และความทุกข์ทรมานของประชากรเกาหลีเหนือก็จะยิ่งลึกลงไปอีก" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ``กองทัพของเราสามารถตอบโต้การโจมตีใดๆ จากเกาหลีเหนือได้อย่างท่วมท้น''
``หากเกาหลีเหนือพยายามใช้อาวุธนิวเคลียร์ ระบอบการปกครอง (เกาหลีเหนือ) ก็จะสิ้นสุดลง''
ก่อนหน้านี้ กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ยังระบุด้วยเกี่ยวกับนโยบายอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญว่า ``เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นตอบโต้อย่างล้นหลาม
“ด้วยความร่วมมือของประชาคมระหว่างประเทศ เราจะเสริมสร้างการคว่ำบาตรและความกดดันเพื่อขัดขวางและยุติการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ” เมื่อวันที่ 26 และ 27 เดือนที่แล้ว เกาหลีเหนือ
) ในการประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดที่จัดขึ้นในอาคารรัฐสภา มีการหยิบยกประเด็นการกำหนดนโยบายการเสริมสร้างอาวุธนิวเคลียร์ตามรัฐธรรมนูญ คิม จุง อึน เลขาธิการทั่วไปของเกาหลีเหนือกล่าวว่า ``กฎหมายสูงสุดของประเทศมีนโยบายเสริมความแข็งแกร่งของอาวุธนิวเคลียร์อย่างชัดเจน''
สิ่งที่เรากำหนดไว้คือมาตรการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เหมาะสม และสำคัญที่สุด ซึ่งไม่เพียงตอบสนองความต้องการในยุคปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังตอบสนองความต้องการทางกฎหมายและวิสัยทัศน์ในการสร้างประเทศสังคมนิยมอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกด้วย”
2023/10/05 07:59 KST
Copyrights(C) Herald wowkorea.jp 96