จำนวนชาวจีนที่ถูกจับขณะเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นเป็น 5 ราย และเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการจับกุมคนที่เหลืออีก 1 ราย เมื่อวันที่ 5 กันยายน ทีมสืบสวนพิเศษด้านการตรวจคนเข้าเมืองของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงโซลได้จับกุมนายเอ ชาวจีนคนหนึ่ง ในข้อหาต้องสงสัยว่าละเมิดพระราชบัญญัติควบคุมคนเข้าเมือง
ขณะนี้ทีมสอบสวนกำลังสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ การลาออกของนายเอ และว่านายหน้ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และมีแผนจะส่งตัวเขาไปให้อัยการในเร็ว ๆ นี้
นายเอ ซึ่งเข้าประเทศทางท่าเรืออินชอนเมื่อวันที่ 29 กันยายน หายตัวไปหลังจากแอบออกจากสถานที่จัดงานที่เกาะวอลมิโด
นายเอ ถูกทีมสอบสวนจับกุมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ก่อนหน้านี้ ทีมสอบสวนเคยพบนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามอบตัวโดยสมัครใจเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม และในวันที่ 20 ตุลาคมของเดือนเดียวกัน
มีผู้ถูกจับกุม 1 รายที่เมืองซุนชอน จังหวัดชอลลาใต้ เมื่อวันที่ 21 และอีก 1 รายที่เมืองอึมซอง จังหวัดชุงชองเหนือ เมื่อวันที่ 22 ส่วนอีก 1 รายเข้ามอบตัวและถูกจับกุมที่เมืองคยองจู จังหวัดคยองซังเหนือ
ไม่ใช่ระบบเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 กันยายน แต่เป็นระบบ "นักท่องเที่ยว" ไม่ต้องใช้วีซ่าสามวัน
ฉันเข้าประเทศภายใต้ "ระบบอนุญาตการขึ้นฝั่ง" ระบบนี้อนุญาตให้คุณพำนักอยู่ในประเทศได้นานถึงสามวันโดยไม่ต้องมีวีซ่าหากคุณมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะพำนักอยู่เกินสามวัน คุณต้องขึ้นเรือเมื่อเรือออกเดินทาง และมีข้อจำกัดบางประการ
ทันทีที่พวกเขาไม่สามารถกลับมาที่เรือได้ตามเวลาที่กำหนด พวกเขาก็จะกลายเป็น "ผู้พำนักผิดกฎหมาย" บัง แจยอล ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงโซล กล่าวว่า "เราวางแผนที่จะติดตามตัวบุคคลที่เหลือจนถึงที่สุด"
“เพื่อขยายการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนระหว่างสองประเทศ สิ่งสำคัญคือต้องพยายามเคารพซึ่งกันและกันและปฏิบัติตามหลักนิติธรรม” เขากล่าวเน้นย้ำ กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ระบุว่า ณ เดือนสิงหาคมปีนี้ มีชาวต่างชาติพำนักอาศัยอย่างผิดกฎหมายในประเทศจำนวน 230,643 คน
ในจำนวนนี้ 43,521 คน (18.9%) เป็นชาวจีน มากเป็นอันดับสองรองจากคนไทย (117,297 คน) มาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมคนเข้าเมืองห้ามมิให้ผู้ใดพำนักอยู่ในเกาหลีโดยไม่มีใบอนุญาตพำนักอาศัยหรือขยายระยะเวลาพำนัก
กฎหมายระบุว่าชาวต่างชาติที่อยู่เกินวีซ่าอาจถูกเนรเทศได้ แต่เนื่องจากการติดตามสถานที่และพฤติกรรมของผู้อพยพผิดกฎหมายเป็นเรื่องยาก จึงมีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้มีการเข้มงวดการควบคุมการย้ายถิ่นฐานล่วงหน้า
มีอยู่ครับ.
2025/11/06 06:26 KST
Copyrights(C) Herald wowkorea.jp 104
